ศาลเจ้า
มาเริ่มกันที่ศาลเจ้า เวลาที่เรียกชื่อวัด มักจะต่อท้ายด้วยคำว่า -จินจะ (神社-shrine) วิธีสังเกตง่ายเลย คือ ศาลเจ้าจะมีโทริอิ โทริอิคือเสาใหญ่ๆสีแดง คล้ายๆเสาชิงช้าบ้านเรา หรือบางที่ไม่ใช่สีแดงก็ได้ ส่วนศาลเจ้าดังๆที่เป็นที่รู้จักกัน ก็ศาลเจ้าMeijijingumae ที่ฮาราจูกุ หรือจะเป็น ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ ที่เกียวโต ก็โด่งดังไม่แพ้กัน
ศาลเจ้าญี่ปุ่นมีกำเนิดมาจากลัทธิชินโต ซึ่งมีมาอย่างยาวนานในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น เป็นลัทธิที่นับถือเทพเจ้า สิ่งศักสิทธิ์ นับถือธรรมชาติ จะไม่มีพระพุทธเจ้า ไม่มีผู้นำศาสนา ข้อบัญญัติศาสนา หรือข้อห้ามต่างๆ และไม่ได้มีสิ่งที่ต้องทำหรือบังคับให้ทำเป็นพิเศษ และจะมีพวกพิธีกรรมบวงสรวงต่างๆเป็นกิจกรรมของลัทธิ
นอกจากโทริอิแล้ว ยังมี มิโกะ ที่เป็นข้อแตกต่างอีกอย่างนึง มิโกะในสมัยก่อนจะทำหน้าที่เป็นผู้แปล-รับสาสน์จากเทพเจ้า แต่ในปัจจุบัน มิโกะที่ว่านี้ก็เป็นคนทั่วไปที่มารับจ๊อบเป็นงานพิเศษกันธรรมดา
วิธีการไหว้
ตั้งแต่เราผ่านโทริอิให้ก้มหัว 1 ที เหมือนเป็นการทำความเคารพ สิ่งศักสิทธิ์ต่างๆที่เฝ้าทางเข้าอยู่
พอเข้าไปก็ต้องล้างมือ โดยวิธีล้างมือ จะมีขั้นตอน 4 ขั้นตอนคือ
- ล้างมือซ้าย ให้ใช้มือขวาถือกระบวย
- ล้างมือขวา ให้ใช้มือซ้ายถือกระบวย
- บ้วนปาก ให้ใช้มือขวาถือกระบวย เทน้ำลงมือซ้าย แล้วเอาเข้าปาก ห้ามดื่มจากกระบวย แต่เอาจริงๆข้อนี้เราค่อนข้างห่วงเรื่องโรคติดต่อเบาๆ เพราะว่าเราเคยเห็นมีนักท่องเที่ยวเอากระบวยตักดื่มเข้าปากเลย แล้วก็นะ เป็นเราไม่กล้าใช้ต่อแล้วอ่ะ…..
- หลังจากนั้นก็น้ำที่เหลือในกระบวย ก็จับตั้ง น้ำจะไหลลงมาเหมือนล้างกระบวย กลับไปวางที่เดิมถือว่าจบขั้นตอนการล้างมือ
หลังจากล้างมือแล้ว เข้าไปศาลเจ้า จะเจอกล่องใหญ่ๆตั้งพื้น มีไม้ระแนงพาดเป็นร่องๆอยู่ด้านบน เอาไว้โยนเหรียญใส่ลงไป บางที่อาจจะมีเชือกและกระดิ่ง ให้เขย่าด้วย เสต็ปการไหว้ขอพรของศาลเจ้า มี 4 ขั้นตอนคือ
- โยนเหรียญเงินลงไป ถ้ามีเชือกและกระดิ่ง ให้เขย่า
- โค้งคำนับ 2 ครั้ง
- ตบมือ 2 ครั้ง แล้วขอพร
- ขอเสร็จแล้วก็โค้งคำนับอีก 1 ที ถือว่าเป็นอันเสร็จพิธีการ
คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่มักใช้เหรียญ 5 เยน ในการโยน เพราะว่า คำว่า 5 เยน(5円) ของญี่ปุ่น จะออกเสียง go-en ซึ่งไปพ้องเสียงกับคำว่า ご縁 ซึ่งให้อารมณ์เหมือนจะมีแต่สิ่งดีๆเข้ามาหา
วัด
มาถึงวัดของญี่ปุ่น วัดของญี่ปุ่นมีหลายนิกาย คร่าวๆคือ มีอยู่ในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นมาประมาณ 1500 ปี เริ่มต้นคือเข้ามาจากอินเดียเป็นผู้นำมาเผยแพร่ศาสนา นับถือการไหว้รูปปั้น มีหลักธรรมคำสอน มีศาสนา แต่ก็แล้วแต่นิกาย บางนิกายคือพระสามารถแต่งงาน แตะต้องตัวผู้หญิงได้ จับเงินได้ ขับรถได้ ทานอาหารเหมือนคนปกติ แค่มีหน้าที่เป็นพระเท่านั้น แต่บางนิกายที่เคร่งมากๆ ก็จะเหมือนของไทย
ความต่างเด่นๆเลยคือ ถ้าเป็นวัด จะมีกระถางธูป ถ้าใครเอ๊ะใจ อาจจะพอนึกออกแล้วว่า ที่วัดอาสากุสะ จะมีกระถางธูปขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง นั่นคือสัญลักษณ์ของวัดนั่นเอง ความแตกต่างอีกอย่างของวัดคือ ไม่มีโทริอิ … กำปั้นทุบดินเนอะ 5555 แต่จะเป็นประตูแบบในภาพที่เห็นเป็นของวัดอาสากุสะ คือเป็นทางเข้าแบบนี้เลย เป็นวัด ส่วนวิธีเรียกชื่อก็ด้วย ถ้าเป็นวัด ภาษาญี่ปุ่นจะลงท้ายด้วย -เทระ ,-เดระ, -จิ (-寺) วัดดังๆที่พูดแล้วน่าจะร้องอ๋อกัน ก็วัดเซนโซจิ หรือวัดอาสากุสะ หรือจะเป็นวัดน้ำใส (คิโยมิสึเดระ) วัดทอง(คินคะคุจิ) วัดเงิน(กินคะคุจิ) ที่อยู่เกียวโต เป็นต้น
วิธีการไหว้
ขั้นตอนการล้างมือนั้น เหมือนกับของศาลเจ้าเลย ไม่ต่างกัน แต่การไหว้ของวัดจะมีความต่างคือ ให้โยนเหรียญ ถ้ามีกระดิ่งกับเชือกให้สั่น แล้วก็โค้งแค่ 1 ที ก็ขอพรได้เลย ไม่ต้องตบมือเหมือนศาลเจ้า แค่นั้นเลยจริงๆ
หลังจากไหว้พระ เทพเจ้ากันแล้ว ก็จะมีทั้งเครื่องราง(โอมาโมริ) หรือจะเป็นเซียมซี(โอมิกุจิ) ให้ช๊อปกันต่อ เดี๊ยวเรื่องจับเซียมซี หรือโอมาโมริไว้มีโอกาส จะมาเล่าให้ฟังอีกทีนึงนะ
ไว้เจอกันครั้งหน้าน้าาาา
ถ้ามีปัญหา ต้องการสอบถามพูดคุย เรื่องการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น หรือ แม้กระทั่งตอนอยู่ที่ญี่ปุ่นแล้วต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถแวะเข้ามาสอบถามพวกเราได้นะคะ
ที่ HIS ทุกสาขา ♥ ยินดีรับใช้บริการทุกท่านค่ะ ♥ ^_^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น